Fitness Booking
System

โปรแกรมการจองฟิตเนส

ทางเลือกใหม่เพื่อการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพและเป็นระบบ ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกแง่มุมของชีวิตประจำวัน การออกกำลังกายก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น และหนึ่งในนวัตกรรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการฟิตเนสคือ ระบบการจองฟิตเนส (Fitness Booking System) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการเวลา เพิ่มความสะดวกสบาย เสริมภาพลักษณ์และประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ

ระบบการจองฟิตเนสคืออะไร?
ระบบการจองฟิตเนสคือแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถจองการเข้าใช้บริการในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น:
* จองเวลาเข้าใช้พื้นที่ฟิตเนส
* จองคลาสออกกำลังกายแบบกลุ่ม (Group Class)
* จองเทรนเนอร์ส่วนตัว (Personal Trainer)
* จัดการข้อมูลการจองต่างๆ เปลี่ยนคนสอน เปลี่ยนเวลา ยกเลิกการจอง
* ดูประวัติการจอง ประวัติการซื้อแพคเกจ ประวัติการชำระเงิน
* รองรับการชำระเงินออนไลน์ หลากหลายรูปแบบ
* ระบบแจ้งเตือนการจอง และการทำรายการต่างๆผ่านทางไลน์
* ระบบสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเช็คอิน
* ระบบล็อกอินผ่านไลน์

นอกจากนี้ระบบการจัดการหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพ เป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญ ในการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ในขณะที่สมาชิกฟิตเนสเพลิดเพลินกับการออกกำลังกายผ่านระบบจองที่ทันสมัย เบื้องหลังความเรียบร้อยและประสบการณ์ที่ดีเหล่านี้ คือ โปรแกรมหลังบ้าน (Back Office System) ที่คอยจัดการงานบริหารทุกด้านให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ฟังก์ชันสำคัญของโปรแกรมหลังบ้านในฟิตเนส

1. การจัดการสมาชิก (Member Management)
– การจัดการข้อมูลสมาชิก : จัดเก็บและแสดงผลข้อมูลพื้นฐานัของสมาชิก เช่น ชื่อ เบอร์โทร อีเมล ภาพถ่าย และสถานะสมาชิก
– ประวัติการซื้อแพคเกจ ครอบคลุมทุกประเภทของการใช้บริการ ทั้งแบบ Membership , Personal Trainer และ Day Pass
– ประวัติการใช้บริการ : แสดงข้อมูลการจอง การหักชั่วโมงต่างๆของแต่ละแพคเกจ ท้้งในรูปแบบ Session/Week หรือ แบบ Hour
– ตรวจสอบสถานะสมาชิก : แสดงผลข้อมูลสมาชิกทั้งหมด สมาชิกที่หมดอายุแล้ว 7 วัน , 30 วัน หรือมากกว่า 30 วัน เพื่อวางแผนการต่ออายุและทำการตลาด

2. การจัดการบุคลากร (Staff & Trainer Management)
– การกำหนดตารางงานของเทรนเนอร์: จัดสรรเวลาการทำงานอย่างชัดเจน พร้อมเชื่อมโยงกับระบบการจองของลูกค้า
– ระบบการลา / Event: ให้เทรนเนอร์สามารถแจ้งลางานหรือเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ พร้อมระบบอนุมัติจากผู้ดูแล
– การประเมินผลงาน: ระบบสามารถให้เทรนเนอร์ถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐานการสอน โดยมีการตรวจสอบและอนุมัติโดยผู้ดูแลระบบ (Admin)

3. การจัดการการจอง (Booking Management)
– จัดการการจอง (Booking) : การเปลี่ยนผู้สอน, เปลี่ยนเวลา, ยกเลิกการจอง
– ปฏิทินการจอง: แสดงผลการจองของแต่ละ Trainer, Group Class และ Event แบบรายวัน/สัปดาห์/เดือน
– No-show: กรณีที่ลูกค้าจองแล้วไม่มา, กำหนดบทลงโทษ เช่น การ แบนชั่วคราว (X วัน) หากไม่มาเกินจำนวนที่กำหนด
– การขอคืนชั่วโมง

4. การจัดการแพ็กเกจ (Package Management) และการอนุมัติ
– การ Freeze
– การขยายเวลาแพ็กเกจ (Extend)
– การเพิ่มชั่วโมงแพ็กเกจ
– การให้แพ็กเกจฟรีแก่ลูกค้า (Give Free) เช่น Membership, Personal Trainer, Package Service

5. การตั้งค่าเงื่อนไขการใช้งาน (Usage Rules & Policy Settings)
– กำหนดจำนวนผู้เข้าร่วม Group Class
– การ Walk-in (เข้าร่วมโดยไม่จองล่วงหน้า)
– กำหนดเงื่อนไขการจอง เช่น จำนวนวันล่วงหน้าที่จองได้ / เวลาที่สามารถยกเลิกได้

6. Dashboard & การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ (KPI) และ รายงานต่างๆ
แสดงข้อมูลเชิงสถิติ เช่น:
– จำนวนสมาชิกใหม่ / สมาชิกหมดอายุ
– แพ็กเกจ New / Renew
– ยอดขาย : ช่วยให้ผู้บริหารวางแผนธุรกิจได้จากข้อมูลจริง

สรุป : การมีระบบจัดการฟิตเนสที่เป็นระบบและครอบคลุมทุกด้าน จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และ มอบประสิทธิภาพที่ดีกว่าให้กับลูกค้า

3 ขั้นตอนง่ายๆ

ในการติดต่อเราออกแบบเว็บไซต์และรับเขียนโปรแกรม

01
รับข้อมูลเริ่มต้น

แจ้งความต้องการผ่านช่องทางต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

02
ประเมินราคา

ประเมินระยะเวลา และงบประมาณเบื้องต้น พร้อมเสนอราคาในเวลาอันรวดเร็ว

03
Get Started!

ประชุมเริ่มต้นโปรเจ็ค ทั้งรูปแบบนัดพบหรือออนไลน์

ยินดีให้คำปรึกษา ประเมินระยะเวลาพัฒนา และงบประมาณดำเนินงาน ทั้งแบบออนไลน์และออนไซต์ ฟรี

c o n t a c t u s . o r a n g e .

ติดต่อสอบถาม

กรุณาฝากชื่อและเบอร์ติดต่อ เจ้าหน้าที่จะโทรหาภายใน 15 นาที